Webull Thailand ครบ 1 ปี เตรียมยก ‘หุ้นไทย’ เสิร์ฟนักลงทุน ตั้งเป้าผู้ใช้แตะ 1 ล้านคน
Webull โบรกเกอร์สหรัฐรายแรกในไทย ฉลองครบ 1 ปี เตรียมยก “หุ้นไทย” มาไว้ในแอปฯ เดินหน้าพัฒนาเครื่องมือการลงทุน-ผนึกพาร์ทเนอร์ ดึงผู้ใช้งานแตะ 1 ล้านคน
เทรนด์การลงทุน “หุ้นนอก” ได้รับความนิยมในหมู่ นักลงทุนไทย ทั้งในด้านศักยภาพและอัตราผลตอบแทนที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การลงทุนในหุ้นสหรัฐที่เคยเป็นเรื่องไกลตัวและมีขั้นตอนซับซ้อนสำหรับนักลงทุนไทยเปลี่ยนไปนับตั้งแต่ “Webull” ทลายข้อจำกัด ด้วยการเป็นโบรกเกอร์สหรัฐรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศไทย
ชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวีบูลล์ ประเทศไทย เน้นย้ำว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา ผลักดันให้เกิดความมุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์มบริการทางการเงินแบบครบวงจร
“ปัจจุบัน วีบูลล์ เปิดโอกาสให้นักลงทุนในประเทศไทยสามารถลงทุนในหุ้นสหรัฐ, ETFs, ออปชัน และหุ้นเศษส่วนได้ ความสามารถในการลงทุนเหล่านี้ยังมาพร้อมกับข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ เครือข่ายชุมชนนักลงทุน และแหล่งความรู้ด้านการลงทุนที่ครบถ้วน ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายและลงทุนได้ในค่าคอมมิชชันเพียง 0.10%”
เตรียมยก “หุ้นไทย” มาไว้ในแอปฯ
ปัจจุบัน “หุ้นไทย” เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจาก นักลงทุนไทย เป็นอันดับ 2 รองจาก หุ้นสหรัฐ ทำให้ในปีนี้ วีบูลล์ เตรียมเพิ่มหุ้นไทยทุกสินทรัพย์ ตั้งแต่ SET Index, MAI Index, DR, DW ยกเว้น TFEX เข้าไปในแพลตฟอร์ม ซึ่งคาดว่าจะพร้อมใช้งานในช่วงเดือนกันยายน 2568 โดย “ชลเดช” มองว่า ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเข้าลงทุน หลังจากเตรียมความพร้อมมาระยะหนึ่งแล้ว
ถึงแม้ว่าตลาดการลงทุนในปัจจุบันจะมีการแข่งขันที่เข้มข้น แต่วีบูลล์ยังคงมี “จุดแข็ง” ด้านต้นทุนที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ พร้อมด้วยระบบการซื้อขายที่มีเสถียรภาพสูง และเครื่องมือการลงทุนที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนชาวไทยโดยเฉพาะ ทั้งรูปแบบการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว
ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนครบวงจร ล่าสุด วีบูลล์ ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนักลงทุนระยะยาวโดยเฉพาะ ได้แก่ “DCA ไม่มีค่าคอมมิชชั่น” เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการลงทุนด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน ตามเวลาที่กำหนดได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่น ในขั้นต่ำแค่ 5 ดอลลาร์ หรือราว 160 บาทเท่านั้น
การเปิดฟีเจอร์ในครั้งนี้จะทำให้ นักลงทุนไทย ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ทั้ง 2 ตลาด รวมทั้งการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ไทยและต่างประเทศ ทำให้วีบูลล์ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานและผู้เปิดบัญชีเพิ่มขึ้นเป็น “2 เท่า” จากปัจจุบันที่มีบัญชีผู้ใช้งานประมาณ 5 แสนบัญชี ซึ่งเปิดบัญชีลงทุนประมาณ 1.3 แสนบัญชี โดยภายในสิ้นปีคาดว่าผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 ล้านบัญชี และเปิดบัญชีลงทุนประมาณ 3 แสนบัญชี
ครบรอบ 9 ปี Webull
วีบูลล์ เริ่มก่อตั้งในปี 2559 และก้าวสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2561 ภายใต้การบริหารงานของ แอนโทนี เดเนียร์ ประธานกลุ่ม Webull Corporation และ CEO ของ Webull US บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐ
ปัจจุบันวีบูลล์ให้บริการครอบคลุม 14 ประเทศทั่วอเมริกาเหนือ เอเชียแปซิฟิก ยุโรป และลาตินอเมริกา พร้อมฐานผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 23 ล้านบัญชีทั่วโลก
วีบูลล์ เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมาในฐานะโบรกเกอร์สัญชาติสหรัฐรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง และดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประเทศไทย
สิ่งที่ทำให้วีบูลล์โดดเด่น คือแพลตฟอร์มการเงินที่ครบครัน ภายใต้แนวคิด “All-in-Webull” ซึ่งมีอัตราค่าคอมมิชชั่นเพียง 0.10% พร้อมทั้งการแสดงราคาสินทรัพย์แบบเรียลไทม์และประสบการณ์ใช้งานที่ราบรื่น ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนชาวไทยโดยเฉพาะ จุดยืนที่แข็งแกร่งนี้ส่งผลให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องของฐานผู้ใช้วีบูลล์ในไทยตลอดปีที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา วีบูลล์ ประเทศไทย จัดงาน “Webull Money Festival 2025” เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 9 ปีของ Webull Corporation และครบรอบ 1 ปีของการดำเนินงานในประเทศไทย พร้อมทั้งประกาศความสำเร็จในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ อย่างเป็นทางการ
|