วิธีเลือกลงทุนหุ้นเติบโต (Growth Stocks)

ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงให้ความสำคัญกับหุ้นเติบโต?

หุ้นเติบโต (Growth Stocks) คือ หุ้นของบริษัทที่คาดว่าจะมีการเติบโตของกำไรหรือรายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดยทั่วไปหุ้นเติบโตจะไม่จ่ายเงินปันผล แต่ด้วยศักยภาพของหุ้นเติบโตที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงในระยะยาว จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนผู้รับความเสี่ยงที่รับความเสี่ยงได้มาก

‌

ขั้นตอนในการค้นหาหุ้นเติบโตที่มีคุณภาพ

1. เลือกอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง

หุ้นเติบโตในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง มักจะมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าเทียบกับหุ้นเติบโตในอุตสาหกรรมอื่น บริษัทที่มีหุ้นเติบโตอาจมีสินค้าหรือบริการที่มีเอกลักษณ์ซึ่งสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ทำให้บริษัทที่อยู่ในกลุ่มหุ้นเติบโตบางแห่งมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

คุณสามารถดู Industrial Heatmap บน Webull ได้ที่หน้า Market ยิ่งมูลค่าตลาดมีขนาดใหญ่เท่าใด ขนาดของสี่เหลี่ยมก็จะใหญ่มากขึ้นเท่านั้น และยิ่งมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากเท่าไหร่ สีที่แสดงก็จะยิ่งเข้มขึ้นมากเท่านั้น‌

2. ตรวจสอบข้อมูลของผู้บริหารของบริษัท

บริษัทที่กำลังเติบโตอาจยังดำเนินกิจการมาไม่นาน จึงอาจไม่มีข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทในอดีตมากนัก ดังนั้น การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทีมผู้บริหารอาจช่วยให้นักลงทุนเข้าใจแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น ผู้บริหารที่สามารถตรวจสอบประวัติการทำงานที่ดีนั้น มักมีวิสัยทัศน์ที่ดีกว่า และอาจส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัท

เลือกเครื่องหมายและไปที่หน้ารายละเอียด คลิก Company > Profile > Key Executives เพื่อค้นหาข้อมูลของทีมผู้บริหารของบริษัทนั้นโดยละเอียด

3. ให้ความสำคัญกับการเติบโตที่แข็งแกร่งของกำไรต่อหุ้น (EPS)

หากบริษัทมีผลการดำเนินงานในอดีตที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตสูงอย่างสม่ำเสมอ มีแนวโน้มที่บริษัทนั้นจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) เป็นตัวชี้วัดการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของกำไรต่อหุ้นของบริษัทที่ผ่านมา สิ่งนี้จะช่วยให้นักลงทุนค้นหาหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มเติบโตหรือลดลงได้เป็นอย่างดี นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ของบริษัทนั้นๆ กับผลประกอบการในอดีตของบริษัท หรือเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

เลือกเครื่องหมายและไปที่หน้ารายละเอียด คลิก Company > Financials > EPS เพื่อตรวจสอบกำไรต่อหุ้นย้อนหลัง

4. อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูง เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเสมอ

อัตราส่วน ROE จะแสดงให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนมากน้อยเพียงใดจากการลงทุนในบริษัทนั้น โดยทั่วไป อัตราส่วน ROE ที่อยู่ในช่วง 15% - 20% ถือว่าบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดี แต่หากอัตราส่วน ROE น้อยกว่า 5% ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ

เลือกเครื่องหมายและไปที่หน้ารายละเอียด คลิก Company > Financials > Peer Comparison เพื่อดูอันดับอัตราส่วน ROE ของบริษัทต่างๆ

วิธีอื่นๆ เพื่อการลงทุนในหุ้นเติบโต

เช่นเดียวกับการลงทุนทุกประเภท การลงทุนในหุ้นเติบโตนั้นมีความเสี่ยง เนื่องจากหุ้นเติบโตส่วนใหญ่จ่ายปันผลในอัตราที่ต่ำหรือไม่จ่ายเลย ดังนั้นผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนระยะยาว จะมาจากส่วนต่างของราคาหุ้น (Capital Gain) เป็นหลัก ดังนั้นหากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ไม่ดี นักลงทุนอาจประสบกับการขาดทุน ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน นักลงทุนอาจเลือกกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนใน ETF หรือกองทุนรวมที่มีการลงทุนในหุ้นจำนวนที่หลากหลาย

‌วิธีค้นหาหุ้นเติบโตบน Webull

เรามี Screener ที่คัดสรรหุ้นเติบโตให้นักลงทุนตามความต้องการ ไม่ว่าจะคัดเลือกจากอุตสาหกรรมของหุ้น, อัตราส่วน ROE, กำไรต่อหุ้น (EPS), Dividend Yield, รวมถึงราคาล่าสุด เป็นต้น คุณสามารถใช้ข้อมูลที่ได้จากการคัดกรองหุ้นที่กล่าวข้างต้น มาช่วยกำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายการลงทุนของคุณได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

‌บทสรุป

ศักยภาพของหุ้นเติบโตในการสร้างผลตอบแทนชนะผลตอบแทนของตลาด ทำให้หุ้นเติบโตได้รับความนิยมในการลงทุนระยะยาว หรือสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นเติบโต แต่ไม่มีเวลาศึกษาที่มากพอ ETF ที่ลงทุนในหุ้นเติบโตสามารถเป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสม

‌

ข้อสงวนสิทธิเกี่ยวกับข้อมูล: ข้อมูลวิเคราะห์ทางเทคนิคจัดทำขึ้นโดย Trading Central Trading Central เป็นองค์กรอิสระที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ Webull Financial Webull ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความครบถ้วนของข้อมูลที่จัดทำโดยบุคคลที่สาม ข้อมูลทั้งหมดมีไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น มิได้มีจุดประสงค์เพื่อการให้คำแนะนำหรือนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน